การเลี้ยงห่าน Goose farming

การเลี้ยงห่าน Goose farming

ห่าน เป็นสัตว์ปีกที่เลี้ยงง่ายไม่ซับซ้อน โตเร็ว ใช้เวลาเลี้ยงไม่นาน ทนทานโรค ใช้แรงงานและทุนในการเลี้ยงน้อย ทนต่อสภาพแห้งแล้งและสภาพอาหารตามธรรมชาติในชนบทได้ดี เหมาะสมสำหรับนำมาเลี้ยงเป็นอาหารเสริม โปรตีนในครัวเรือน และที่สำคัญก็คือ เนื้อห่านมีรสชาติดี ผู้บริโภคและตลาดยังมีความต้องการอยู่มาก

เงื่อนไขความสำเร็จ
ผู้เลี้ยงต้องมีความขยันอดทน เป็นคนช่างสังเกตดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ สถานที่เลี้ยงควรมีแหล่งวัตถุดิบอาหารที่หาได้ง่ายและมีราคาไม่แพง มีแหล่งอาหารตามธรรมชาติ และวัสดุเหลือจากระบบไร่นาที่สามารถใช้เป็นอาหารเสริมอย่างเพียงพอ ได้แก่ หอย ผักตบชวา จอก แหน เศษพืชผัก เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและควรมีตลาดรองรับที่ชัดเจน

เทคโนโลยีและกระบวนการผลิต
1. พันธุ์ห่าน
ที่นิยมได้แก่พันธุ์ห่านจีนสีเทา ซึ่งมีลักษณะขนมีสีเทา ตัวใหญ่ร้องเสียงดัง

2. โรงเรือนและอุปกรณ์
โรงเรือน สำหรับเลี้ยงห่าน 4-5 ตัว ควรเป็นโรงเรือนที่สร้างโดยใช้วัสดุที่ทำได้ ควรมีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร เลี้ยงห่านได้ในท้องถิ่น สร้างโรงเรือนตามทิศตะวันออก-ตะวันตก พื้นโรงเรือนต้องสามารถป้องกันนน้ำท่วมขัง ภายในโรงเรือนอากาศถ่ายเทได้ด

3. การจัดการเลี้ยงดู
ควรเริ่มต้นด้วยการซื้อลูกห่านพันธุ์มาเลี้ยง ลูกห่านที่นำมาเลี้ยงในระยะแรกควรกกให้มีความร้อนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ควรทำความสะอาดที่ให้น้ำและให้อาหารทุกวันมีน้ำที่สะอาดให้กินตลอดเวลาเมื่อลูกห่านอายุ 4 สัปดาห์ ให้น้ำผสม EM ซึ่งจะช่วยให้ลดกลิ่นจากมูลสัตว์ และช่วยให้ห่านย่อยอาหารได้ดีขึ้น อาหารที่ให้ห่านกินเป็นอาหารที่ดีมีคุณภาพ โดยใช้อาหารสำเร็จรูปให้กินเต็มที่ เสริมด้วยหญ้าสด ผักตบชวา จอก แหน หรือเศษผักสับให้กิน โดยเศษผักต้องสะอาดปราศจากสารพิษ การเลี้ยงห่านส่วนใหญ่เกษตรกรจะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์เพื่อผลิตลูกจำหน่ายและขุนเป็นห่านเนื้อจำหน่าย โดยจะใช้ อัตราพ่อพันธุ์ 1 ตัว ต่อ แม่พันธุ์ 3 ตัว แม่ห่าน 1 ตัว จะให้ลูกได้ประมาณ 18 ตัวต่อปี

4. การควบคุมป้องกันโรคระบาด
ผู้เลี้ยงต้องหมั่นดูแลอย่างใกล้ชิดควรแยกห่านป่วยออกจากฝูง และปรึกษาสัตว์แพทย์จำเป็นต้องทำวัคซีนป้องกันโรค ตามโปรแกรมที่กำหนดให้อย่างเคร่งครัด

ต้นทุนและผลตอบแทน
สำหรับการเลี้ยงห่าน 1 ชุด ประกอบด้วยพ่อพันธุ์ 1 ตัว แม่พันธุ์ 3 ตัว

1. ต้นทุน
จะได้แก่ ค่าโรงเรือน ค่าอุปกรณ์เลี้ยงห่าน ค่าพันธุ์ห่านพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าวัคซีนและเวชภัณฑ์ โดยจะมีต้นทุนประมาณปีละ 12,000-13,000 บาท

2. ผลตอบแทน
จะได้จากการจำหน่ายพันธุ์ห่าน โดยทั่วไปเมื่อห่านอายุได้ 4 เดือน สามารถจำหน่ายได้ในราคาตัวละ 200 บาท โดยพบว่าในปีแรกของการเลี้ยงห่าน จำนวน 1 ชุด จะมีผลแทนประมาณ 14,000-14,500 บาทและจะเพิ่มมากขึ้นในปีต่อๆ ไปเนื่องจากไม่ต้องลงทุนค่าพ่อแม่พันธุ์อีกแล้ว ทั้งนี้ต้นทุนและผลตอบแทนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพ และราคาของปัจจัยการผลิต และราคาจำหน่ายในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจเลี้ยงเกษตรกรจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดให้ชัดเจนเสียก่อน

บทความที่เกี่ยวข้อง